MG Extender ถ้าอยากสัมผัสกระบะดีๆ ก็ขอแค่เปิดใจ...

หลังจากที่บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ได้ทำการเปิดตัว รถกระบะรุ่นแรกของเอ็มจี สู่ตลาดเมืองไทยภายใต้ชื่อ “NEW MG EXTENDER”  ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เสียงจากรอบด้านต่างก็ออกมาให้มุมมอง ความเห็นกันมากมาย ทั้งแนะนำ วิจารณ์ และกล่าวถึงการกล้าเปิดตลาดของ MG ที่จะลงมาเล่นกับตลาดปิคอัพ ที่แน่นอนว่าหลายคนมองว่าเป็นตลาดที่โหดและหินเอาเสียเหลือเกิน แต่เมื่อค่าย MG ทุ่มทุนสร้าง และที่สำคัญด้วยความที่หลังบ้านก็ยิ่งใหญ่ระดับ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ หรือ SAIC - Shanghai Automotive Industry Corporation จึงมองได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก ที่ค่ายรถยนต์ MG ในการบริหารยุคใหม่ที่มองการณ์ไกลด้วยวิสัยทัศน์ของ SAIC - Shanghai Automotive Industry Corporation ยักษ์ใหญ๋ของอุตสาหกรรมยานยนต์จีน ย่อมมองตลาดกระบะของไทยว่า เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญ ที่นอกจากจะประกอบขายในเมืองไทยแล้วนั้น ยังสามารถใช้ไทยเป็นฐานการผลิต MG Extender เพื่อต่อยอดสู่ตลาดโลกอีกด้วย

คำว่า “กล้า” หรือ “ไม่กล้า” จึงไม่ใช่เหตุผลที่ต้องมาคุยกันแล้ว เพราะเขามองตลาดกระบะระดับโลก เขากำลังจะไปตีตลาดโลก ตลาดกระบะในเมืองไทยจึงเป็นเพียงเศษเสี้ยวของการเริ่มต้น และการสร้างฐานอันมั่นคงให้โปรดักซ์ MG กระบะเสียมากกว่า ว่ารถคุณภาพของ MG เกิดและผลิตขึ้นในดินแดนที่ตลาดรถกระบะยิ่งใหญ่ไม่เป็นสองรองใครในระดับโลก

บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด หลังจากเปิดตัวรถได้ไม่นาน ก็เริ่มกิจกรรมทดสอบขับรถยนต์กระบะตัวใหม่ล่าสุด NEW MG EXTENDER โดยเชิญนักทดสอบรถยนต์จากสื่อต่างๆ โดย ThaiTelegraph.com ก็ได้รับเกียรติในครั้งนี้ด้วย ต้องขอขอบคุณ คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และทีม PR ทุกท่านที่ให้โอกาสในการมาสัมผัส ทดลองขับรถรุ่นใหม่ล่าสุดในครั้งนี้

NEW MG EXTENDER ถามว่าเป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุด เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทยเลยหรือไม่ กล่าวตรงๆเลยว่า มันมีลูกพี่ลูกร้องที่อยู่ในอนุกรมเดียวกันแต่เป็นแฝดคนละฝาในชื่อ MAXAS T70 ซึ่งรถแบรนด์นี้ เป็นรถกระบะแบรนด์ MAXUS ที่ผลิตจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และส่งออกทำตลาดไปทั่วโลก มีขายที่งที่อ้งกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอีกหลายสิบประเทศทั่วโลก ถึงแม้ว่าจะมาจากโครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน แต่มีเรื่องที่คนไทยที่สนใจเจ้า NEW MG EXTENDER สบายใจได้อย่างหนึ่งก็คือ การดีไซน์ในตัว  MG Extender นั้นสวยกว่า และแน่นอนว่ารถบ้านเรา ทันสมัยกว่ามากทีเดียว

NEW MG EXTENDER ที่เปิดตัวในเมืองไทย และเราได้มาทดลองขับกันในทริปนี้  แตกต่างด้วยรูปลักษณ์ ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบโมเดิร์นดีไซน์ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ MG Extender เลยทีเดียว กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมล้อมกรอบรวงผึ้งซึ่งเป็นช่องระบายความร้อนของหม้อน้ำและระบบหล่อย์นของรถหลายส่วน รับกับช่องรวงผึ้งตอนล่าง และดวงไฟที่ฝั่งไฟสูงต่ำ แบบโปรเจ็คเตอร์ พร้อมไฟเดย์ไทม์รานนิ่งไลท์ ออกแบบเป็นคิ้วสวยงามและจบลงด้วยชายขอบกันชนตอนล่างที่ฝังไฟสปอต์ไลท์ทรงเหลี่ยมรับกันพอดี

ด้านตัวถัง MG Extender ออกแบบหนีจากเจ้าตลาดญี่ปุ่นหลายค่ายที่เฮโลกันออกแบบให้รถมีลักษณะเหลี่ยมมุมแบบกล่อง ซึ่งดูล้าสมัยง่ายด้วยการออกแบบให้ตัวรถมีมุมกลมกลึง เป็นมุมที่สะท้อนความรู้สึกเสมือนกระแสน้ำไหล ที่รับกันตั้งแต่กระจังหน้า ฝากระโปรง ซุ้มล้อ จรดหลังคา จะออกเป็นเหลี่ยมมุม มีเห็นเพียงจุดเดียวคือด้านท้าบรถซึ่งมันคงยากจะให้เป็นแบบอื่นด้วยสรีระรถและลักษณะการใช้งาน

ตัวถังขนาดใหญ่ ส่งผลให้ภายในรู้สึกกว้างขวาง และโปร่งสบาย ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และเก็บเสียงดีเยี่ยมด้วยการออกแบบฉนวนกันเสียง 9 จุด วัสดุที่เลือกใช้แรกเริ่ม ตอนวันเปิดตัวไม่ได้ลงลึก พอมาทดสอบรถได้ลองนั่ง ลองจับภายในของรถ ยอมรับว่า MG พยายามส่งมอบความรู้สึกที่พรีเมี่ยม ให้กับลูกค้าที่เลือกจะใช้กระบะ MG Extender เพราะภายในของกระบะคันนี้ การเลือกใช้วัสดุมองว่าใช้เกรดเดียวกันกับ MG-ZS SUV ตัวหรูที่มีราคาและต้นทุนแพงกว่ากันหลายช่วงตัวทีเดียว เครื่องเสียงและการเก็บเสียงในยามที่วิ่งทดสอบไฮเวย์ ใช้ความเร็วเกิน 110 km/h ขึ้นไป นึกว่าเสียงลม เสียงดังจะมีรบกวนมากขึ้น แต่เอาจริงๆ ต้องกดคันเร่งกันถึง 140km/h ขึ้นไปถึงจะรู้สึกว่ามีเสียงลมรบกวนเข้ามาในห้องโดยสาร เรียกว่าสายฟังเพลง หากขับสบายๆไม่เกิน 130 km/h เปิดเพลงฟังกันชิลล์ๆไปเลย

ด้านสมรรถนะ เป็นอีกจุดที่หลายคนสงสัยและตั้งคำถามว่า MG Extender จะให้สมรรถนะตอบสนองดีแค่ไหน สำหรับขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผัน ที่ติดตั้งมาใน MG Extender นี้ ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER Mode ถามว่าขับแล้วรู้สึกอย่างไร ตอบได้ว่า การตอบสนองการขับขี่ทั้งในแบบการใช้งานปรกติ และเมื่อต้องเรียกสมรรถนะใช้งาน หรือแม้ในเส้นทางป่าเขา Off-Road ทุกการใช้งานที่กล่าวมานั้น MG Extender ให้การตอบสนองได้ในระดับที่แตกต่างกัน แบบเรียกว่าจับความรู้สึกในการขับได้ สเตปแรกจับไปที่การขับบนถนนปรกติ หากเราใช้เกียร์ในตำแหน่ง ECO-MODE ความรู้สึกมันจะเหมือนกับการขับรถในสไตล์เกียร์ CVT คล้ายๆนะครับ คือความรู้สึกมันจะไหลๆ รอบเครื่องยนต์จะมาแบบอ่อนๆ ไม่กระโชกโฮกฮาก เกียร์จะเปลี่ยนไปตามรอบความเร็วแบบสม่ำเสมอ และจับหรือตอบสนองไม่รวดเร็วนัก ถามวิศวกร MG ให้ข้อมูลว่าเป็นการ set ให้รถทำงานตามรอบที่เหมาะสม เน้นประหยัดและลื่นไหล พอขยับโหมดการขับขี่มาที่ POWER-MODE ความรู้สึกในการขับบนถนนจะเปลี่ยนไปในอีกสไตล์ทันที คันเร่งไวขึ้น เกียร์ลากรอบทำงานกว้างขึ้น หรือที่เขาเรียกว่า Power Band มันกว้างมากขึ้นนั่นเอง นั่นหมายถึงความกระชับฉับไว กระฉับกระเฉง การขับโดยอยู่ใน POWER-MODE นั้น MG Extender ให้ความรู้สึกความคล่องตัว และมีอัตราเร่งที่เกินความคาดหมายทีเดียว การนำรถวิ่งบนไฮเวย์ ความเร็วอาจเป็นเรื่องปรกติที่สามารถทำได้ไม่ยากนัก แต่เมื่อเราลองขับผ่านเส้นทางเขาที่ต้องลัดเลาะผ่านสภาพความสูงชัน กำลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรดีเซล กับเกียร์ 6 สปีด ที่จูนด้วย ECU ที่แม่นยำ สามารถสร้างและเรียกแรงบิด ให้รถสามารถเคลื่อนที่ตาม “สั่ง” ได้แบบต่อเนื่อง ไหลลื่น และภายใต้เท้าข้างขวาบนแป้นคันเร่งของเจ้า MG Extender นั้น คุณจะรู้สึกถึงพลังที่เกินคาดได้อย่างต่อเนื่องทีเดียว

จุดอ่อนของรถรถกระบะในยุคใหม่ๆคือ สมรรถนะของเครื่องยนต์มักแรง มีสมรรถนะสูง แต่ก็มักมีจุดบอดที่มองข้ามกันเสมอๆ นั่นคือเรื่องของ ระบบช่วงล่างที่ผู้ผลิตมักออกแบบมาให้พอดี แต่ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของลูกค้า ที่มักจะอยากให้คุณสมบัติของรถมีมาแบบเหลือๆ ช่วงล่างของ MG Extender มีจุดสำคัญที่ถือเป็นจุดขาย หรืออาจจะเรียกว่าคือความต่าง กับคู่แข่งทั้งหลายในตลาดนั่นคือ การอออกแบบให้ระบบช่วงล่างของกระบะ MG Extender มีสมรรถนะที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วๆไป ของรถกระบะในท้องตลาด เขาให้คำจำกัดความในการออกแบบในสไตล์เฉพาะว่า ช่วงล่างแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ซึ่งก็หมายถึงการออกแบบให้รถกระบะ MG Extender มีการตอบสนองที่ให้ความรู้สึกหนึบกว่า นุ่มกว่า และแตกต่างจากความรู้สึกของช่วงล่างกระบะแบบทั่วๆไป ตรงที่เราจะรู้สึกนั่งสบาย นุ่ม และซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี อาจจะเรียกว่าใกล้เคียงกับความเป็นรถยนต์นั่งแบบซาลูน หรือรถเก่งทั่วไป ช่วงล่างแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ประกอบไปด้วย ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) และในด้านหลังใช้แหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) ทำงานควบคู่กับช่วงล่างแบบ BRIT Dynamic ซึ่งให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ในความเร็วต่ำ และให้ความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูง เพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้งาน

ซึ่งจากการทดสอบ ลองขับ และนั่งใช้ชีวิตกับเจ้า MG Extender ในรุ่น DOUBLE CAB GRAND 4WD มาสองวันเต็มๆ ความรู้สึกกับช่วงล่างแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ผมรู้สึกได้ว่า รถมันนั่งสบายกว่ากระบะทั่วไปเล็กน้อย เรื่องการสั่นสะเทือนของผิวถนน มีขึ้นมาถึงคนนั่ง คนขับ ยังมีอยู่เล็กน้อย จะเรียกว่าซับแบบนุ่มนวลเลยคงไม่ใช่ แต่โดยรวมมองว่าหนึบ นุ่ม และสั่นสะเทือนน้อยกว่าปรกติ ซึ่งเมื่อรวมกับความเงียบของห้องโดยสาร และการใช้วัสดุที่ดี ส่งผลให้ MG Extender กลายเป็นกระบะในราคาที่ไม่แพงนัก และอาจจะถือว่าราคาสมเหตุสมผลที่สุดในตลาด ณ เวลานี้ มีจุดขายเด่นๆที่น่าสนใจอีกคันเลยทีเดียว

ถามว่าจุดเด่นของ MG Extender มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไล่จากใกล้ๆตัวไปก็มี พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอสีพร้อมระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว กุญแจระบบ Smart Key พร้อมติดตั้งปุ่ม Push Start และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ โดยในรุ่น Double Cab เบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้า เบาะหลังพับได้ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง นอกจากนั้นยังมีไฟหน้าโปรเจคเตอร์ (Projector) พร้อม Daytime Running Lights บันไดข้าง และกล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ขณะถอย ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่ในรุ่น Giant Cab แบบยกสูง ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) มีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L ซึ่งถามว่าได้ใช้หรือไม่ ก็บอกเลยว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราเดินทางขึ้นไปบนเส้นทางขุนช่างเคี่ยน ดอยปุย พระตำหนักภูพิงค์ เส้นทางเป็นลูกรัง เนินชัน และร่องน้ำหลายจุด การปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจาก 2H เป็น 4H สามารถทำได้อย่างสะดวกง่ายดาย ส่วน 4L ยังไม่มีเส้นทางให้ได้ลองไว้เอารถมาทดสอบยาวๆจะนำไปลองเข้าป่าดูนะครับ

ในส่วนระบบความปลอดภัย MG Extender มาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบ FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ด้วยโครงสร้างที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง Thermoforming Steel ในส่วนของตัวถังและโครงสร้างหลักๆของ MG Extender เลือกใช้เหล็กแบบ High Strength Steel มีความแข็งแกร่งสูง และปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System นอกเหนือจากนี้ ที่ดูในลิสต์รายการสเปกระบบติดตั้งในรถเห็นว่ามี

ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Braking System)

ระบบช่วยเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)

ระบบช่วยกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)

ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)

ระบบตรวจสอบความผิดปดติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)

ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)

ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descend Control System)

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)

ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning System)

ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง

เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ

กล้องมองภาพรอบทิศทาง

สัญญาณเตือนกะระยะด้านหลังและด้านหน้า พร้อมกล้องมองหลัง

สรุปในทริป 2 วัน ที่ได้รับเชิญมาขับและทดสอบเจ้า MG Extender กระบะสายเลือดใหม่ล่าสุดจากค่าย MG ต้องบอกว่าหลายสิ่ง หลายอย่างที่ได้ตั้งหวังและคาดหมายกับกระบะจากค่าย MG นั้น มีทั้งเรื่องของความพอใจ และยังรู้สึกว่า MG ยังสามารถที่จะพัฒนาได้มากกว่านี้ เช่น ระบบช่วงล่าง ที่น่าจะสามารถเก็บความรู้สึกสั่นสะเทือนได้อีกนิด มันจะสามารถฉีกความรู้สึกจากมาตรฐานรถกระบะ ที่เจ้าตลาดญี่ปุ่นทั้งหลายเคยบอกว่าของตัวเองเป็นที่สุด ดีเยี่ยม จริงๆบอกเลยว่ามันสามารถทำกระบะที่สะเทือนได้น้อยลง ขับนุ่มขึ้น ในระดับราคาปรกติๆ ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร ซึ่ง MG Extender เองก็สามารถที่จะขยับชั้นมาตรฐานขึ้นมาได้อีกระดับแล้ว

สมรรถนะ และการขับขี่ รวมถึงระบบต่างๆที่บรรจุมาเป็นสเปกมาตรฐาน ถือว่าสอบผ่าน ผสมผสานกับสนนราคาที่ถือว่าคุ้มค่า และเหมาะสม นักข่าวที่ทดสอบด้วยกันบอก MG Extender ต้องรอเวลาแจ้งเกิด ผมเลยอยากจะบอกว่า รถกระบะอย่าง MG Extender ไม่ต้องรอแจ้งเกิดหรอก สมรรถนะ และคุณภาพสู้รถกระบะแบรนด์อื่นได้สบายๆ สำหรับตลาดเมืองไทย ที่ใครๆหลายคนบอกว่าปราบเซียนๆ ฝากบอกเลยตรงนี้ว่า “MG Extender เป็นกระบะที่เชื่อถือได้ และสมรรถนะผ่านแน่นอน” ถ้าจะถามว่าแล้วอะไรมาขัดใจ ขัดความรู้สึกในการตัดสินใจของท่านผู้อ่าน มองว่าเป็นเรื่องของความเชื่อ และเสียงที่มักดูถูกสินค้าที่มีเอี่ยวกับความเป็นจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ช่วยโปรดเปิดความคิดซักนิดแล้วจะรู้ว่า “จีน ในวันนี้ ได้สอยพญาอินทรี ร่วงเป็นนกปีกหักมาให้เห็นแล้ว” นะครับ ถ้า SAIC หรือ Shanghai Automotive Industry Corporation ไม่แน่จริงคงไม่คว้าแบรนด์ MG จากเมืองผู้ดีอังกฤษมาครอบครอง ถ้าไม่แน่จริงคงไม่ปล่อย MG Extender มาลุยตลาดกระบะปราบเซียนอย่างเมืองไทย เปิดใจซักนิด แล้วคุณจะได้สัมผัสกระบะใหม่ๆที่มาพร้อมกับคุณภาพในอีกระดับที่น่าสนใจทีเดียวครับ....

NEW MG EXTENDER DOUBLE CAB GRAND 2.0 GRAND 4WD X 6AT 1,029,000

อมร วรมาลี / amornthaitelegraph@gmail.com